พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ภาคเหนือเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชนให้ทั่วถึงและคุมเข้มกฎหมายจับคนเผาป่าได้ ลงโทษทั้งหมด ชี้งบประมาณรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่
วันนี้ (2 เม.ย.2562) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การจัดการและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มาในฐานะรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด ดูแลพื้นที่ตามขั้นตอน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการรับฟังการแก้ปัญหาและอุปสรรคของการทำงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมขอทราบแนวทางการปฏิบัติทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีได้ทราบรายละเอียดการทำงานที่ผ่านมาโดยละเอียดอยู่แล้ว แต่วันนี้จำเป็นจะต้องทำงานที่ลงในรายละเอียดมากขึ้น ให้สามารถแก้ปัญหาเร็วขึ้น ยืนยัน ถ้ามีปัญหาอุปสรรคใดๆ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน และยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ ที่จะลงมาในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาได้ตามเป้าหมาย ในวันนี้ก็ได้มีการประสานเพื่อสั่งเครื่องมือเข้ามาเพิ่มเติมรวมทั้งเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำ
“ต้องลดจุด hotspot ให้ได้ ตอนนี้สั่งการงดเผาแบบเร่งด่วน เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ 7 วัน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ต้องแก้ปัญหา Hotspot ให้ได้ ทั้งการดับไฟป่า หาที่มาไฟป่า ต้องมีการวางแผนแก้ปัญหาในระยะยาว ด้วยการสร้างจิตสำนึก”
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาโดยการทำตามใจได้ ต้องแก้ไปทีละปัญหาตามแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งขณะนี้แบ่งพื้นที่ในการแก้ปัญหาออกเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่เขตเมือง เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูแลสุขภาพประชาชนโดยเร่งด่วน ส่วนที่ 2 พื้นที่ทำกินทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย ส่วนที่ 3 คือ พื้นที่ป่าภูเขา ซึ่งภาคเหนือมีพื้นที่สูง บางครั้งมีการเผาในที่สูงก็ควบคุมได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่สำคัญ คือ จิตสำนึก
“เราต้องแก้ด้วยจิตสำนึก มันไม่ใช่ 7 วันแล้ว ทุกคนต้องไม่เผาป่า มันโทษใครไม่ได้ ถ้ารัฐบาลใช้มาตรการเด็ดขาด ห้ามประชาชนเข้าป่าได้ไหม วันนี้มีมาตรการไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า จะบอกว่าเข้าป่าถูกจับหมดหรือ ก็ไม่ใช่ เข้าป่าไปหาเห็ดได้แล้วนะ แต่ไม่ใช่ไปเผาป่า ตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติแล้ว สั่งให้เข้มข้นเรื่องกฎหมาย เจอใครทำผิดก็จับหมด”